Thursday, May 12, 2016

วางแผนเวลาแบบ VI /โดยคุณวีระพงษ์ ธัม






  เวลาคือเพื่อนที่ดีที่สุดของนักลงทุน และนี่คือทรัพยากรที่สำคัญที่สุดที่เราจำเป็นต้องบริหาร ชีวิตจะเป็นอย่างไรถ้ามีแต่ความยุ่งเหยิง วุ่นวาย มนุษย์ต้องการเวลาที่ดี ที่เราจะสามารถมีความสุขกับมัน และหลีกเลี่ยงหรือจำกัดเอาเวลาเครียด ๆ ที่เราต้องกดดันให้น้อยลง การลงทุนคือกิจกรรมที่เราต้อง “ลงทุนเวลา” เพื่อจะมีเวลาที่ดีในอนาคต แต่ VI ส่วนมากจะต้อง “ทำงานอย่างน้อยสองอย่าง” คือ งานประจำ และต้องเจียดเวลามาศึกษาการลงทุน ไม่นับเวลาที่ต้องให้กับครอบครัว ซึ่งปัญหาส่วนมากคือ เวลาไม่เคยเพียงพอซักที คำถามคือ VI มือใหม่ควรจะบริหารเวลาอย่างไร?


            แนวคิดในการบริหารเวลามีหลากหลาย แต่ผมขอใช้วิธีคิดของนักกลยุทธ์อย่าง Dan Sullivan ซึ่งแบ่งเวลาออกเป็น 3 วัน คือ วันพัก (Free day) วันจดจ่อ (Focus day) วันจัดระบบ (Buffer day) เพื่อให้การบริหารเวลามีประสิทธิภาพเราควรจะจัดเวลาทั้งสามวันออกจากกันอย่างชัดเจน และเราไม่ควรแบ่งเวลาออกเป็นวันหยุด วันทำงาน หรือวันนักขัตฤกษ์ เหมือนคนทั่วไปเพราะมีประสิทธิภาพน้อย

            วันพัก (Free day) คือวันที่ตั้งแต่เช้า จรดค่ำ เราจะไม่ยุ่งกับงานเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการคิดงาน ติดต่องาน โทรศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับงาน เพื่อไปทำกิจกรรมที่เรารู้สึกชอบ ผ่อนคลาย ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ผมก็เห็นเพื่อนจำนวนมากเดินทางท่องเที่ยวไปต่างประเทศ ใช้เวลากับกิจกรรมครอบครัว โดยที่เราจะพบว่า “วันหยุดยาว” ลักษณะนี้จะทำให้เรามีโอกาสพักผ่อนได้มากที่สุด เพราะทุกคน “พร้อมใจ” กันหยุด และไม่ติดต่องานกัน ผู้คนโดยเฉพาะในโลกตะวันออกอย่างบ้านเรามักคิดว่า “วันพัก” ที่ยาวนาน แสดงถึงความไม่ขยันในการทำงาน แต่ผมกลับสังเกตในโลกตะวันตก พวกเขามี “วันพัก” ในฤดูร้อนยาวนานถึงสองเดือน ในวันเสาร์อาทิตย์ก็ไม่มีใครทำงาน แต่กลับมีผลผลิตรายได้ต่อหัวสูงกว่าเราค่อนข้างมาก เพราะนี่คือการ “เติมพลัง” ให้ชีวิต “เติมไอเดีย” ให้กับสมอง โดยที่ผลผลิต และวันพักที่ดีที่สุด คือวันพักที่มีการวางแผนล่วงหน้า ยิ่งล่วงหน้าเท่าไหร่ ยิ่งดี

            วันจดจ่อ (Focus day) คือวันที่ตั้งแต่เช้า จรดค่ำ เราจะทำแต่งานที่ “สร้างมูลค่า” โดยไม่วอกแวกทำอย่างอื่น งานที่เราจดจ่อต้องเป็นงานที่ “เปลี่ยนชีวิต” ในอนาคตในอีกสามปีของเราได้อย่างชัดเจน ไม่ใช่เป็นเพียงงานที่เราทำไปวัน ๆ วันจดจ่อจะต้องเป็นวันที่ส่งผลบวกกับเราในอนาคต และถ้าเราทำได้อย่างถูกต้อง เราจะต้องรู้สึกถึงความก้าวหน้า รู้สึกถึงการมีพลัง แรงบันดาลใจอย่างต่อเนื่อง การทำงานในวันจดจ่อจะมีประสิทธิภาพได้จะต้องไม่ถูกรบกวนด้วยสิ่งอื่น ๆ สมองก็มี “Switching Cost” ไม่ต่างกับหลัก ในเชิงเศรษฐศาสตร์ นักจิตวิทยาทำงานวิจัย พบว่าสมองมนุษย์ต้องใช้เวลานาน 20 นาที ถึงจะเริ่มสามารถกลับสู่การทำงานเดิมได้ และใช้เวลาต่อจากนั้นอีกระยะถึงกลับสู่ “ศักยภาพสูงสุด” ของสมองได้ สมองไม่ได้ออกแบบให้ทำงานหลายอย่างพร้อมกัน ดังนั้นใครที่ทำงานไป ฟังเพลงไป เล่น Facebook ดู Line ในแต่ละครั้ง จะบั่นทอนประสิทธิภาพของวันจดจ่อไปมากโดยที่เราไม่รู้ตัว

            สำหรับ VI มือใหม่ วันจดจ่อน่าจะเป็นวันเสาร์หรือวันอาทิตย์ ที่เราจะใช้เวลาทั้งหมด สำหรับการศึกษาตั้งแต่ “ทฤษฎีการลงทุน” ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ การวิเคราะห์ธุรกิจ วิเคราะห์อุตสาหกรรม การบัญชี การเงิน การประเมินมูลค่า จนเมื่อเราสามารถตั้งหลักในเรื่องทฤษฎีการลงทุนได้แล้ว เราก็เริ่มนั่งวิเคราะห์หุ้นรายตัว ทำการจดบันทึกสิ่งที่เราวิเคราะห์ นั่งอ่านรายงานประจำปี 56-1 นอกจากนั้นเราต้องไม่ลืมว่า วันจันทร์ถึงวันศุกร์ เราต้อง “จดจ่อ” กับงานที่เราทำ ทำให้ผลลัพท์ดีกว่าที่ทุกคนคาดหวัง ทำให้เร็วกว่า เพื่อที่เราจะไม่มี “งานค้าง” หรือ “ความกังวล” ที่จะต้องถูกคนตามงาน ในเวลาที่เราต้องมาศึกษาการลงทุน
            วันจัดระบบ (Buffer day) เปรียบเหมือนวันซักซ้อม วันวางแผนในรายละเอียดต่าง ๆ รวมไปถึงการใช้เวลาเพื่อที่จะคิดว่าเราจะเพิ่มประสิทธิภาพ เพื่อเป็นตัวเชื่อมไปสู่ “วันพัก” หรือ “วันจดจ่อ” ที่มีคุณภาพ ตัวอย่างเช่น วันจัดระบบคือการเวลากับการวางแผนท่องเที่ยว เพื่อให้การท่องเที่ยวสามารถพักผ่อนได้ดีที่สุด ได้เที่ยวอย่างที่อยากได้ไป ในทางกลับกัน นี่คือวันที่เคลียร์สิ่งที่ค้างอยู่ กองเอกสารที่รกบนโต๊ะ งานจุกจิกที่เราจะต้องทำ


            ปัญหาของคนส่วนมากคือ ไม่เคยมีวันจดจ่อ ทำงานไปวันต่อวัน ไม่เคยจัดระบบชีวิต และสุดท้ายก็ทำให้มีวันพักเหลือน้อยมาก จนรู้สึกว่าเหนื่อยแต่ชีวิตที่ไม่ไปไหน

            คำถามสำคัญอีกเรื่องคือ เราควรจัดวันอะไรก่อน? เพื่อลงปฏิทินล่วงหน้า คำตอบซึ่งค่อนข้างน่าประหลาดใจของ Dan คือ เราต้องจัดวันพักก่อน เพราะนี่คือการจัด “แหล่งพลังงาน” ของเรา เราต้องวางมันให้เหมาะสม กระจายตัว เพื่อหวังว่ามันคือ “เชื้อเพลิง” ให้ชีวิตของเรา ให้เรามีวันจดจ่อที่ “ทรงพลัง”

            สำหรับนักลงทุน ถ้าทุกอย่างถูกต้อง คุณจะพบว่าหลายครั้ง ทั้งสามวันอาจจะค่อย ๆ กลายเป็นวันเดียวกัน เราหาหุ้นดี ๆ โอกาสดี ๆ ไอเดียดี ๆ จากริมชายหาดในวันพัก หรือบนเครื่องบินที่มุ่งหน้าสู่ยุโรป นอกจากนั้น เราอาจจะรู้สึกว่าแม้เวลาจะมีไม่เพียงพอเหมือนเดิม แต่เรารู้สึกพอใจกับการใช้เวลาของเราที่ผ่านมา และไม่เสียใจเมื่อมองย้อนกลับไป