ในช่วงที่ผ่านมามีหลายบทความที่เขียนถึงพฤติกรรมของคนกลุ่มนี้ ความเชื่อโดยทั่วไปเห็นว่าพวก Millennials นี้เป็นพวกไม่จงรักภัคดีต่อองค์กรเหมือนรุ่นก่อน ไม่สู้งานหนัก และ รักงานสบาย ในปี 2010 บริษัท PricewaterhouseCoopers PwC) เริ่มสังเกตุเห็นอัตราการลาออก ของพนักงานอายุงานน้อยที่สูงขึ้นอย่างผิดสังเกตุ จึงได้ริเริ่มการทำวิจัยร่วมกับ University of Southern California และ London Business School เกี่ยวกับพฤติกรรมของคนกลุ่ม Millennials โดยใช้กลุ่มตัวอย่างเป็นพนักงานของบริษัทมากกว่าหมื่นคน ผลวิจัยออกมาอย่างน่า
ประหลาดใจว่า คนในกลุ่ม Millennials นั้นไม่ได้เป็นคนที่เกี่ยงงานหนักอย่างที่เชื่อกัน
ผมเองพอรู้จักนักลงทุนที่อายุน้อยกว่า 35 ปีที่สร้างพอร์ตจนมูลค่าเกิน 50 ล้านบาทอยู่บ้าง และจากการสังเกตุการใช้ชีวิตในการเป็นนักลงทุนของพวกเขา ทำให้ผมเชื่อว่างานวิจัยของ PwC ที่บอกว่า คนในกลุ่ม Millennials เป็นคนขยันทำงานไม่ใช่รักแต่งานสบายนั้นเป็นความจริง ผมเห็นน้องๆ นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จล้วนทำการศึกษาธุรกิจของหุ้นที่ตัวเองถืออยู่จนเข้าใจ อย่างถ่องแท้ เข้าเยี่ยมชมบริษัท พบปะผู้บริหาร เข้าร่วมกิจกรรม "Opportunity Day" ที่ตลาดหลัก ทรัพย์ฯ จัดขึ้นเพื่อให้ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุนอย่างสม่ำเสมอ บางคนอ่านหนังสือ การลงทุน, งานวิจัย และ บทวิเคราะห์ ถึงตีหนึ่ง ตีสอง ถึงจะเข้านอน ผมเองยังไม่เห็นใครเลยที่ไม่ ศึกษาหาความรู้ มุ่งแต่เก็งกำไรราคารายวัน มองหุ้นเป็นการพนัน แล้วลงทุนประสบความสำเร็จ
แล้วทำไมคนรุ่นนี้ถึงมาสนใจหุ้นกันมาก? ผมคิดว่าทั้งนี้เพราะเมื่อคนรุ่นนี้เรียนจบออกมา สภาพ เศรษฐกิจไทยไม่ได้สวยหรูแบบสมัยก่อนวิกฤตต้มยำกุ้ง โดยเฉพาะ Millennials รุ่นแรกๆที่เรียน จบมาตอนปี พ.ศ. 2543-2545 การหางานไม่ได้ง่ายเหมือนแต่ก่อน บางคนหันไปเรียนปริญญา โทต่อทันที และมีบางคนเริ่มศึกษาการลงทุนหุ้นเพื่อเป็นรายได้เสริม แต่พอตลาดหุ้นกลับตัวเป็น ตลาดกระทิงในปี 2546 สร้างผลตอบแทนอย่างงามให้กับผู้ลงทุน ทำให้หลายคนยึดเอาอาชีพ นักลงทุนเป็นอาชีพหลักตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
Michael Liersch ผู้อำนวยการทางด้าน Behavioral Finance ของ Merrill Lynch ได้ทำการ
ศึกษาพฤติกรรมการลงทุนของกลุ่ม Millennials ที่มีความมั่งคั่งสูงในอเมริกาแล้วพบว่า ส่วนใหญ่ ต้องการตัดสินใจในเรื่องการลงทุนด้วยตัวเอง โดยกลยุทธที่ใช้ในการลงทุนที่นิยมมากที่สุด ที่ถูก เลือกโดย 40% ของกลุ่มตัวอย่างคือ การซื้อและถือยาว Buy and Hold) ซึ่งก็สอดคล้องกับหลัก การการลงทุนแบบเน้นคุณค่า จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าหนังสือแนวลงทุนเน้นคุณค่า Value Investing) จะได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่นักลงทุนรุ่นนี้
อาชีพนักลงทุน ดูเหมือนจะเป็นสิ่งใหม่สำหรับสังคมไทย คงจะเหมือนกับการเป็น ดารา นักร้อง นักแสดงในสมัยก่อนที่ผู้คนส่วนใหญ่ยังไม่ให้การยอมรับ มองว่าเป็นอาชีพที่มีความไม่แน่นอนสูง แต่เมื่อเวลาผ่านไปคนรุ่นใหม่กลับเห็นเป็นตรงกันข้าม แต่ทั้งนี้ การที่ Millennials หันมาเป็น นักลงทุนหุ้นกันมาก ก็คงต้องเตรียมใจเหมือนในวงการเบินเทิงไว้ด้วยว่า ใช่ว่าดาราทุกคนจะประสบ ความสำเร็จโด่งดังทำเงินมหาศาลเหมือนกัน หลายคนทำเงินแค่เลี้ยงครอบครัวไปได้ หลายคนต้อง เปลี่ยนไปทำอาชีพอื่น ดูเหมือนว่า โชคชะตา พรสวรรค์ ความมุ่งมั่น และฝีมือ ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญ ไม่ว่าวันนี้คุณเลือกที่จะอยู่ในวงการมายา หรือเลือกว่าจะเป็นนักลงทุน