รายได้ : ที่ซึ่งเงินเข้า
บรรทัดแรกในงบกำไรขาดทุนจะเป็น ยอด รวมรายได้หรือรายได้ขั้นต้น ซึ่งคือจำนวนเงินที่เข้ามาในบริษัทในช่วงเวลาหนึ่งๆ ซึ่งอาจเป็นไตรมาสหรือปี หากเราผลิตรองเท้า และขายรองเท้าได้ $120 ล้าน ในปีนั้น งบกำไรขาดทุนของเราจะรายงานว่า ยอด รวมรายได้ เท่ากับ 120 ล้าน สำหรับปีนั้น
ตอนนี้ ความจริงที่ว่าบริษัทมีรายได้มากไม่ได้หมายความว่าวายได้ที่เข้ามาเป็นกำไร ในการดูว่าบริษัทมีกำไรเท่าใด จะต้องนำต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ ของธุรกิจมาหักจากยอดรวมรายได้ รายได้ลยค่าใช้จ่ายเท่ากับรายได้สุทธิ อย่างไรก็ตาม รายได้รวมตัวเดียวไม่ได้บอกอะไรเลยจนกว่าจะหักค่าใช้จ่ายออก และดูว่ารายได้สุทธิมีจำนวนเท่าใด
หลังจากที่วอร์เรนดูยอดรวมรายได้ของธุรกิจแล้ว เขาจะเริ่มพิจารณาด้นทุนค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด เพราะเขารู้ว่าหนึ่งในความลับที่ยิ่งใหญ่ของการทำเงินให้ได้มากขึ้นคือ การใช้จ่ายน้อยลง
ต้นทุนขาย : สำหรับวอร์เรน บัฟเฟตต์ ยิ่งต่ำยิ่งดี
ในงบกำไรขาดทุน รายการที่อยู่ถัดจากยอดรวมรายได้คือ ต้นทุนสินค้าขาย หรือที่รู้จักอีกชื่อว่า ต้นทุนรายได้ ต้นทุนสินค้าขายคือต้นทุนของสินค้าที่บริษัทซื้อมาเพื่อขาย หรือต้นทุนของวัสดุและแรงงานที่ใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ขายก็ได้ หากธุรกิจของบริษัทเกี่ยวกับการให้บริการไม่ใช่การขายผลิตภัณฑ์ มักจะใช้ "ต้นทุนของรายได้" แทน "ต้นทุนสินค้าขาย" แต่ที่สุดแล้วคือสิ่งเดียวกัน เพียงแต่ตัวหนึ่งมีความหมายครอบคลุมกว่าเล็กน้อยเท่านั้น สิ่งที่เราต้องทำคือ ตรวจสอบให้แน่นอนว่าบริษัทรวมอะไรเข้าไปในการคำนวณต้นทุนการขายหรือต้นทุนของรายได้บ้าง ซึ่งจะทำให้ทราบได้ว่าผู้บริหารของบริษัทคิดอย่างไรกับธุรกิจของพวกเขา
ตัวอย่างง่ายๆ ที่จะแสดงให้เห็นถึงวิธีการคำนวณต้นทุนสินค้าของบริษัทเฟอร์นิเจอร์บริษัทหนึ่งคือ : เริ่มจากต้นทุนของเฟอร์นิเจอร์ในสินค้าคงคลังของบริษัท ณ ต้นปี บวกต้นทุนค่าใช้จ่ายที่เพิ่มเข้ามาในสินค้าคงคลังระหว่างปี แล้วลบด้วยมูลค่าเงินสดของสินค้าคงคลัง ณ สิ้นปี เพราะฉะนั้น หากบริษัทเริ่มต้นปีโดยมีสินค้าคงคลังมูลค่า $10 ล้าน ซื้อสินค้าเข้ามาเพิ่มในสินค้าคงคลัง $2 ล้าน และเมื่อถึงปลายปีมูลค่าของสินค้าคงคลังเท่ากับ $7 ล้าน หมายความว่าบริษัทนั้นๆ มีต้นทุนสินค้าขาย $ 5 ล้านเหรียญ สำหรับงวดบัญชีนั้นๆ
แม้ว่าต้นทุนสินค้าขายเพียงตัวเดียวจะไม่ได้บอกอะไรมากว่าบริษัทมีความได้เปรียบในการแข่งขันที่ยั่งยืนหรือไม่ แต่ก็เป็นสิ่งจำเป็นที่จะทำให้ทราบถึงกำไรขั้นต้นของธุรกิจ ซึ่งเป็นตัวเลขสำคัญในการช่วยให้วอร์เรนตัดสินว่า บริษัทนั้นๆ มีความได้เปรียบในการแข่งขันในระยะยาวหรือไม่ เราจะมาพูดถึงเรื่องนี้กันในครั้งต่อไป