Tuesday, March 4, 2014
กฏการลงทุนอย่างรอบคอบ 30 ข้อ สำหรับนักลงทุน VI
ขณะที่พวกเราพยายามค้นหาคำตอบว่าจะทำอย่างไรให้มีชีวิตยืนยาว มันก็มีคำตอบง่ายๆ อยู่ไม่น้อยที่ส่งผลกระทบใจได้มาก ซึ่งก็ยากทีเดียวที่จะสรรหาคำแนะนำเรื่องนี้ได้ดีไปกว่าคำตอบที่ว่า อย่าสูบบุรี่ อย่าดื่มเหล้า ทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และคาดเข็มขัดนิรภัยก่อนขับรถ ความคิดที่ก่อปัญหาให้ซับซ้อนแล้วสามารถหาคำตอบได้ง่ายๆ นั้น ไม่ได้จำกัดอยู่แต่คำถามเรื่องการมีชีวิตยืนยาวเท่านั้น
ผมได้รวบรวมกฏข้อปฏิบัติไว้ 30 ข้อที่จะทำให้คุณมีโอกาสบรรลุถึงเป้าหมายทางการเงินได้ดังตั้งใจลองดูและนำไปปฏิบัติกันครับ
1. จงอย่าเพิ่มความเสี่ยงมากเกินกว่าที่คุณจะรับไหว แผนหลายฉบับล้มเหลวก็เพราะนักลงทุนแบกรับความเสี่ยงมากเกินกว่าที่ตนจะรับไว้ได้ ความเสี่ยงมักจะปรากฏออกมาอย่างคาดไม่ถึงซึ่งจะนำไปสู่การยกเลิกแผนการลงทุน ดังนั้นเมื่อคุณกำลังสร้างแผนการลงทุนอยู่ จงพิจารณาถึงขีดความสามารถ เสถียรภาพของรายได้ ความสามารถที่จะทนรับภาวะขาดทุน และอัตราผลตอบแทนที่จะบรรลุตามเป้าหมายของคุณด้วย
2. จงอย่าลงทุนในหุ้นถ้าคุณยังไม่เข้าใจธรรมชาติทั้งหมดของความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น และถ้าคุณไม่สามารถอธิบายความเสี่ยงต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นให้แก่เพื่อนของคุณฟังได้ คุณก็ไม่ควรลงทุน บรรดาความโชคดีต่างๆ อาจหายไปในบัดดล เพราะว่าผู้คนไม่เข้าใจถึงประเภทความเสี่ยงที่เขาเหล่านั้นกำลังประสบอยู่
3. การลงทุนยิ่งสลับซับซ้อน คุณก็ควรจะยิ่งวิ่งหนีให้เร็วขึ้น สินค่าที่สลับซับซ้อนมักจะออกแบบมากเพื่อขาย ไม่ใช่เพื่อซื้อ คุณสามารถมั่นใจได้เลยว่าความสลับซับซ้อนนั้นออกแบบมาเพื่อผลประโยชน์ของผู้ที่ออกตราสาร ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ของนักลงทุน บรรดาวาณิชธนากรไม่ได้เล่นบทเป็นซานตาคลอสมาหยิบยื่นผลตอบแทนสูงๆ ให้คุณเพราะพวกเขาชอบคุณหรอกนะ เขาหวังเงินของคุณต่างหาก
4. ความเสี่ยงและผลตอบแทนไม่จำเป็นต้องสัมพันธ์กัน แต่ความเสี่ยงและความคาดหวังในผลตอบแทนเป็นสิ่งสัมพันธ์กัน ถ้ามันไม่มีความเสี่ยง มันก็จะไม่มีความคาดหวังในผลตอบแทนที่สูงขึ้นเช่นกัน
5. ถ้าหุ้นให้ผลตอบแทนสูง คุณจงมั่นใจได้เลยว่าความเสี่ยงย่อมสูงด้วยแม้ว่าคุณจะมองไม่เห็นมันก็ตาม ผลตอบแทนสูงๆ ก็เหมือนกับผลแอปเปิ้ลเปลือกผิวมันวาวที่ราชินีผู้ชั่วร้ายหยิบยื่นให้แก่สโนว์ไวท์ นักลงทุนจึงไม่ควรสับสนระหว่างผลตอบแทนที่แท้จริงกับความคาดหวังในผลตอบแทนสูง ๆ สโนว์ไวท์มองไม่เห็นยาพิษที่แทรกซึมอยู่ในผลแอปเปิลได้ฉันใด คุณก็มั่นใจได้เลยว่าคุณจะมองไม่เห็นพวกความเสี่ยงต่างๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในการลงทุนด้วยฉันนั้น
6.แผนการลงทุนที่ดีมีความจำเป็นสำหรับการลงทุนที่ประสบผลสำเร็จ แต่คุณต้องมีวินัยที่จะดำเนินตามแผน ปรับสมดุล และจัดการภาษีเท่าที่จำเป็น โชคไม่ดีเลยที่บรรดานักลงทุนต่างไม่เคยเขียนแผนการลงทุนไว้กำกับตัวเองและอารมณ์ต่างๆ เช่น ความโลภ ความอิจฉาในตลาดขาขึ้น รวมถึงความกลัวและความตระหนกตกใจในตลาดขาลง ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้แผนดีๆ ต้องถูกทิ้งไป
7.แผนการลงทุนต้องรวมเอาแผนการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ แผนภาษี และแผนการจัดการความเสี่ยง (การประกันภัยทุกประเภท) เข้าไปด้วย แผนการลงทุนที่ดีที่สุดสามารถล้มเหลวได้จากเหตุการณ์ที่ไม่เกี่ยวกับตลาดการเงินเลย เช่น บางครอบครัวมีคนทำงานหาเงินอยู่เพียงคนเดียวแต่ต้องหาเลี้ยงทั้งครอบครัวหากคนๆ นั้นตายไปโดยไม่ได้ทำประกันชีวิตใดๆ ไว้เลย หรืออาจจะประสบอุบัติเหตุจนไม่สามารถทำงานได้ ก็จะทำให้สมาชิกคนอื่นๆ ต้องพลอยตกอยู่ในความลำบากไปด้วย
8. จงอย่าคิดว่าสิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้แล้วจะเป็นไปไม่ได้เลย และอย่าเชื่อว่าสิ่งที่เป็นไปได้คือความแน่นอน นักลงทุนมักจะตั้งสมมติฐานว่าความสามารถของพวกเขามีมากจนล้นเหลือและมีความเสี่ยงต่ำหรือไม่มีเลย ผลลัพธ์ก็คือเขาอาจจะต้องรับความเสี่ยงมากเกินไป การรับความเสี่ยงมากเกินอาจทำให้นักลงทุนระยะยาวกลายเป็นนักลงทุนระยะสั้นไปโดยอัตโนมัติ หุ้นต่างๆ มีความเสี่ยง ไม่ว่ามันจะมีความสามารถเพียงใดก็ตาม และจงจำไว้ว่าเพราะบางสิ่งบางอย่างไม่ได้เกิดขึ้นก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะเกิดขึ้นไม่ได้หรือมันจะไม่เกิดขึ้น
9. ผลที่ตามมาจากการตัดสินใจควรจะมีผลต่อความเป็นไปได้ของผลลัพธ์นั้นๆ เราซื้อประกันภัยเพื่อจะลดความเสี่ยงของเหตุการณ์ที่เป็นไปได้น้อย (เช่น ความตาย) เพื่อป้องกันผลที่ตามมาจากการไม่ทำประกันภัยซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ในทำนองเดียวกัน นักลงทุนควรจะทำประกันพอร์ตการลงทุนของเขา (โดยครอบครองตราสารหนี้คุณภาพสูงในจำนวนเหมาะสม) เพื่อลดความเสี่ยงของเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะผลที่ออกมาจากการไม่ทำประกันอาจจะหนักหนาเกินกว่าที่ใครจะรับไหว
10. กลยุทธ์สร้างความร่ำรวยแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับกลยุทธ์รักษาความร่ำรวยให้คงอยู่อย่างยั่งยืน บางคนอาจจะอยากรวยโดยยอมเสี่ยงมากขึ้น (หรือได้รับมรดก) ขณะที่บางคนอยากรวยอย่างยั่งยืนโดยลดความเสี่ยงให้ต่ำที่สุดด้วยการกระจายการลงทุนและไม่ใช้จ่ายเงินจนเกินตัว
11. สิ่งเดี่ยวที่แย่ยิ่งกว่าการจ่ายภาษีคือการไม่ยอมจ่ายภาษี ปัญหาของ "ไข่ล้นเกินในตะกร้าใบเดียว" ซึ่งเป็นผลจากการครอบครองหุ้นจำนวนมากในราคาต่ำ หากขายหุ้นเหล่านั้นออกไปแล้วจะได้กำไรมหาศาล และถ้าหากยังไม่จ่ายภาษีจากกำไรที่เกิดขึ้นอีกก็จะนำไปสู่ความโชคร้ายอย่างแน่นอน
12. พอร์ตการลงทุนที่มีความไม่แน่นอนจะปลอดภัยที่สุดก็ต่อเมื่อมีการกระจายการลงทุนออกไป พอร์ตการลงทุนควรจะรวมการจัดสรรการลงทุนไปในประเภทสินทรัพย์ต่างๆ อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นหุ้นขนาดใหญ่ หุ้นขนาดเล็ก หุ้นเน้นคุณค่า หุ้นเติบโต อสังหาริมทรัพย์ หุ้นในประเทศพัฒนาแล้ว หุ้นตลาดเกิดใหม่ สินค้าโภคภัณฑ์ และตราสารหนี้
13. การกระจายการลงทุนของพอร์ตจะให้ผลตอบแทนอยู่เสมอๆ ซึ่งบางครั้งคุณอาจจะชอบหรือไม่ชอบผลที่ออกมา เมื่อใดก็ตามที่คุณกระจายการลงทุนออกไปนอกเหนือจากดัชนีที่เป็นที่นิยม (เช่น ดัชนี SET 100 ) คุณจะต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ดัชนีนั้นๆ มีผลงานดีกว่าพอร์ตการลงทุนของคุณ ข่าวลือจากสื่อต่างๆ จะเป็นเครื่องทดสอบว่าคุณมีความสามารถเพียงพอที่จะยึดมั่นกับกลยุทธ์ของคุณให้ถึงที่สุดได้หรือไม่?
14. ราคาหุ้นทั้งหมดและตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยง (เช่น ตารสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนสูง และตราสารหนี้ของตลาดเกิดใหม่) มักจะมีแนวโน้มตกต่ำลงในช่วงเกิดวิกฤตทางการเงิน แผนการลงทุนของคุณจึงต้องคำนึงถึงปัจจัยนี้ไว้ด้วย
15. แค่ตามหาหุ้นราคาผิดปกติเท่านั้นยังไม่พอ คุณต้องคิดถึงค่าใช้จ่ายที่ตามมาด้วย "ประวัติศาสตร์" มักเต็มไปด้วยเรื่องราวของนักลงทุนที่พยายามใช้โอกาสในยามที่หุ้นมีราคาผิดปกติ จนในที่สุดก็ได้พบว่าค่าใช้จ่ายต่างๆ สูงเกินกว่าผลตอบแทนที่ได้รับเสียอีก
16.การลงทุนในหุ้นเป็นเกมที่ผลรวมออกมาเป็นบวก แต่ค่าใช้จ่ายจะทำให้เกมได้ผลรวมที่กลายเป็นลบ นักลงทุนที่หลีกเลี่ยงความเสี่ยงจะไม่เล่นเกมที่ได้ผลรวมติดลบ และนักลงทุนส่วนใหญ่ก็เป็นคนที่ชอบหลีกเลี่ยงความเสี่ยง จงคำนึงถึงค่าใช้จ่ายที่ต่ำ การลดภาระภาษี และการจัดการลงทุนที่ซื้อขายน้อยครั้ง
17. การถือครองหุ้นเป็นตัวๆ และกองทุนหุ้นกลุ่มต่างๆ เป็นการเก็งกำไรมากกว่าการลงทุน ตลาดจะให้ผลตอบแทนแก่นักลงทุนที่ยอมเสี่ยงถือหุ้นเป็นตัวๆ หรือเป็นกลุ่มมากกว่าการกระจายการลงทุน ซึ่งคล้ายกับการลงทุนในหุ้นเปรียบเทียบกับการลงทุนในตราสารหนี้ และยังจะมีความเสี่ยงมากขึ้นไปอีกหากครอบครองหุ้นเพียงตัวเดียว นักลงทุนที่ฉลาดจึงมักจะยอมรับความเสี่ยงเฉพาะในสถานการณ์ที่เขาเหล่านั้นจะได้รผลตอบแทนสูงกว่าผลตอบแทนที่เขาคาดหวังไว้เท่านั้น
18. จงเสี่ยงกับการลงทุนในหุ้น ตราสารหนี้อาจเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในพอร์ตการลงทุน เพราะมันสามารถลดความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนทั้งหมดให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้
19. ก่อนจะทำอะไรกับข้อมูลสำคัญ คุณควรถามตัวเองก่อนว่า ทำไมคุณถึงคิดว่าข้อมูลเหล่านั้นยังไม่ได้สะท้อนเข้าไปในราคาหุ้นแล้ว เฉพาะคุณค่าภายในของตัวหุ้นนั้นๆ เท่านั้นที่มีค่า การจะหาคุณค่าภายในของตัวหุ้นเป็นเรื่องไม่ง่ายเลย ถ้าคุณได้ฟังคำแนะนำจากนักวิเคราะห์ที่เฉลี่ยวฉลาด หรือจากโบรกเกอร์ของคุณ หรืออาจจะอ่านจากหนังสือพิมพ์ด้านการเงินก็ตาม ตลาดได้รับรู้แล้วว่าขัอมูลนั้นอยู่บนพื้นฐานอะไรและมันได้สะท้อนเข้าไปในราคาหุ้นแล้วจึงทำให้ข้อมูลดังกล่าวไม่มีค่าอีกต่อไป
20. ประโยคที่อันตรายที่สุดสำหรับการลงทุนคือ "เวลานี้... มันไม่เหมือนเดิม" ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความหลงใหลที่จะไขว่คว้าหาแต่ "สิ่งใหม่ๆ" และยังเป็นเหตุผลว่าทำไมประโยคที่ว่า "หนทางที่น่ามั่นใจที่สุดเพื่อไขว่คว้าหาความโชคดีเล็กน้อยควรเริ่มต้นด้วยการทำเรื่องใหญ่เสียก่อน" จึงเป็นเพียงการอุปมาอุปไมยเท่านั้น
21. ตลาดอาจทำตัวไม่มีเหตุผลได้ยาวนานเกินกว่าที่จะสามารถทนได้ ภาวะฟองสบู่จะยังเกิดขึ้นต่อไป อย่างไรก็ตาม ขณะที่มันกำลังระเบิดอยู่ มันก็จะโตขึ้นและโตขึ้น และอยู่อย่างยาวนานเกินกว่าทรัพยากรที่คุณมีทั้งหมดจะช่วยคุณได้
22. ถ้ามันดีเกินกว่าจะเป็นจริง มันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เมื่อเงินกับประสบการณ์มาพบกัน ประสบการณ์จะดึงดูดเงินไป และเงินที่ถูกดูดไปจะทำให้เกิดประสบการณ์ มีเพียงทางเดียวที่จะลงทุนได้อย่างปลอดภัยนั้นคือ กระจายการลงทุน
23. จงอย่าทำงานกับที่ปรึกษาการเงินที่คิดค่าบริการจากค่าคอมมิชชั่น ค่าคอมมิชชั่นจะก่อให้เกิดคำแนะนำที่ลำเอียงได้
24. จงทำงานกับที่ปรึกษาการเงินที่มีจรรยาบรรณเท่านั้น นั่นคือหนทางที่ดีที่สุดที่จะมั่นใจได้ว่าคำแนะนำที่คุณได้รับก็เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของคุณ ไม่มีเหตุผลใดที่ที่ปรึกษาของคุณจะไม่ยึดหลักจรรยาบรรณ
25. จงแยกให้ออกระหว่าการบริการของที่ปรึกษาการเงิน ผู้จัดการฝ่ายการเงิน ผู้รับฝากหลักทรัพย์ (Custodian) และผู้ดูแลทรัพย์สิน (Trustee) กฏข้อนี้ลดความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการทุจริตได้
26. เนื่องจากพวกเราชาวนักลงทุนต่างอยู่ในโลกของลูกแก้ววิเศษที่หม่นมัวด้วยหมอกเมฆ กลยุทธ์ใดๆ ที่ใช้อาจจะถูกหรือผิดก็ได้จนกว่าเราจะรู้ถึงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง โดยทั่วไปคนโง่ที่โชคดีไม่เคยคิดว่าพวกเขาโชคดี แม้แต่แผนการลงทุนที่ดีก็อาจจะล้มเหลวได้ นั้นเป็นเพราะความเสี่ยงที่ยอมรับได้นั้นเกิดขึ้นแล้วและผลของความเสี่ยงที่หลีกเลี่ยงไปแล้วก็อาจจะเกิดขึ้นตามมาได้อีกด้วย
27. ความหวังไม่ใช่กลยุทธ์การลงทุน จงตัดสินใจลงทุนบนพื้นฐานของข้อมูลที่ได้จากบทความในวารสารทางวิชาการชั้นนำเท่านั้น
28. จงจดบันทึกการคาดการณ์ตลาดของคุณทุกวัน หลังจากนั้นคุณจะรู้ว่า คุณไม่ควรจะลงทุนตาวความรู้สึกในใจของคุณ
29. ไม่เคยมีเรื่องใหม่ในการลงทุน มีเพียงแต่ประวัติศาสตร์การลงทุนที่คุณไม่เคยรู้มาก่อนเท่านั้น ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์การเงินจะทำให้คุณสามารถคาดการณ์ความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับพอร์ตการลงทุนของคุณได้
30. คำแนะนำที่ดีไม่จำเป็นต้องมีราคาแพง แต่คำแนะนำที่ไม่ดีจะทำให้คุณเสียค่าใช้จ่ายแพงมากไม่ว่าคำแนะนำเหล่านั้นจะมีราคาถูกเพียงใดก็ตาม คนที่ฉลาดมักจะไม่เลือกหมอที่คิดค่ารักษาราคาถูก หรือไม่เลือกผู้ตรวจสอบบัญชีที่คิดใช้จ่ายถูกๆ ค่าใช้จ่ายเป็นเรื่องสำคัญแน่นอน แต่มันจะคุ้มค่าก็ต่อเมื่อคำแนะนำนั้นสามารถสร้างผลตอบแทนที่มีค่ามากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับค่าใช้จ่ายแล้ว
สิ่งที่ผลจะกล่าวตอนท้ายนี้ไม่ใช่เป็นข้อมูลที่สำคัญที่สุดเท่านั้น แต่ยังเป็นบทสรุปส่งท้ายที่เหมาะสมอีกด้วย ขณะที่มันช่างน่าเศร้าที่นักลงทุนจำนวนมากมักจะพลาดผลตอบแทนของตลาดที่เกิดจากกลยุทธ์การลงทุนแบบซื้อขายน้อยครั้งอย่างน่าเสียดายแล้ว ความเศร้าอันใหญ่หลวงของแท้ก็คือ พวกเขายังพลาดสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตสำหรับการแสวงหาสิ่งที่ผมเรียกว่า "สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งผลประกอบการที่ยอดเยี่ยม" ด้วย ความปรารถนาของผมเปี่ยมด้วยความหวังว่า กฏการลงทุนเหล่านี้จะนำพาคุณไปสู่เกมแห่งผู้ชนะทั้งในการลงทุนและที่สำคัญกว่านั้นคือ.... ในชีวิตของคุณ