Thursday, March 10, 2016

วิเคราะห์การลงทุนปี 59 เพื่อให้คุณคิดได้อย่างเซียน


ถือเงินสด รอเก็บ
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร นักลงทุนแนววีไอ กล่าวว่าสถานการณ์หุ้น เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2558 หุ้นตกลงมา 20% เป็นตลาดหมี ทำให้คนหมดกำลังใจ เพราะหลายปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นจะสร้างผลตอบแทนดี ทำให้มีนักลงทุนเข้ามาเพิ่มจำนวนมาก จึงทำให้นักลงทุนไม่คุ้นเคยสภาวะหุ้นซบเซา และสิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นการเตือนเบาๆ เพราะตลาดหุ้นเคยมีเหตุการณ์ตกหนักมาก่อนในอดีต ปีนี้ราคาก็ลงมาอีก เหมือนแมวตกลงมาและดิ้น 3-4 รอบ

เหตุผลที่ทำให้ตลาดหุ้นขึ้นไม่มาก เพราะพื้นฐานเศรษฐกิจที่ผ่านมาโตไม่ถึง 3% ถือว่าไม่ดี และปัจจัยหนึ่งในการเติบโตของเศรษฐกิจในปีที่ผ่านมาเกิดจากการลดภาษีนิติบุคคล แต่ปัจจัยพื้นฐานจริงๆ ไม่ได้สนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ

“พื้นฐานเศรษฐกิจไม่ดีมาหลายปี สถานการณ์ต่างประเทศ และจีนไม่ค่อยดี เป็นการสะกิดเตือน และดอกเบี้ยต่ำขนาดนี้ เม็ดเงินมีน้อย ราคาหุ้นแพงจึงเป็นการปรับตัว”

ดังนั้นสิ่งที่จะเห็นจากนี้ไปตลาดหุ้นจะทรงๆ หลายปี เพราะไทยเข้าสู่ New Normal จะหวังผลตอบแทน 10% ค่อนข้างยาก

“ที่ผ่านมาผมลงทุนหุ้น 99.5% ถือเงินสดไม่ถึง 1% แต่ปีที่ผ่านมาถือเงินสด 20% และปีนี้ถือเพิ่ม 30% ผมถือเงินสดเพื่อรอเก็บหุ้น แต่ต้องให้ราคาต่ำจริงๆ”

ดร.นิเวศน์ เล่าถึงเทคนิคการเล่นหุ้น เลือกหุ้นที่รู้จักธุรกิจและชอบ ติดตามรายได้กำไร เงินปันผลเพิ่มทุกปีหรือไม่ และสิ่งที่เราคาดการณ์ยังเหมือนเดิมในปีต่อๆ ไป ก็ควรจะซื้อ แต่ถ้าปีที่ 1 และปีที่ 2 ผลตอบแทนยังดีอยู่ แต่ถ้าปีที่ 3 และ ปีที่ 4 กำไร ปันผล เริ่มไม่แน่นอน ก็ควรจะขายออกไป แม้ว่าหุ้นดังกล่าวราคาจะปรับตัวขึ้นก็ตาม

จังหวะดี หาของถูก
โสรัตน์ วณิชวรากิจ หรือ เสี่ยเคน กล่าวว่าปีนี้บรรยากาศตลาดหุ้นค่อนข้างเงียบเหงาและเศร้าๆ แต่สภาพเศรษฐกิจไม่ดีเป็นโอกาสให้หาหุ้น Super Stock ราคาถูก จึงถือเป็นช่วงเวลาที่ดี และเมื่อเจอหุ้นที่ใช่ นักลงุทนควรถือนาน 5-10 ปี เพื่อรอคอยผลตอบแทน ไม่ต้องสนใจตลาดมากนัก เพราะจะมีเหวี่ยงระหว่างทางถือเป็นเรื่องของตลาด

“2 ปีที่ผ่านมาผมหาหุ้นไม่ได้เลย ไม่เจอหุ้นถูกสเป็ก แต่ในที่สุดผมเจอหุ้นตัวหนึ่งเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเทคนิคของผลไม่ดูภาพรวมเศรษฐกิจ แต่จะมองกิจการและมองความสามารถในการทำกำไร ทิศทางธุรกิจไม่เปลี่ยน”

สไตล์การเล่นหุ้นจะเล่นเชิงรุกและเลือกหุ้นตัวใหญ่ และภายใน 7-10 ปี หุ้นที่เลือกจะต้องอยู่ในอันดับต้นๆ ของอุตสาหกรรม

เขากล่าวเพิ่มเติมว่า การลงทุนหุ้นจะมีหลักการ 3 เรื่อง คือลงทุนแล้ว 1.มีกำไร 2.มีความสุข สุขภาพดี และได้ดูแลครอบครัว 3.องค์ความรู้ต้องพัฒนา เพราะถ้านักลงทุนดูพอร์ตมูลค่า 100 ล้านบาท แต่ถ้าผู้เล่นมีความสามารถดูแลได้เพียง 10 ล้านบาท พอร์ตของคุณจะลดตามความสามารถของนักลงทุนที่มี ฉะนั้นการพัฒนาองค์ความรู้จึงเป็นสิ่งจำเป็น

เล่นเทคนิคต้องมีวินัย
วัชระ แก้วสว่าง (เสี่ยป๋อง) เซียนหุ้นแนวเทคนิควิเคราะห์กราฟลงทุน กล่าวว่ากลยุทธ์การเล่นเทคนิคต้องมีวินัยในการเล่นหุ้น แม้เศรษฐกิจจะดูไม่ดีแต่ก็มีกราฟสวยๆ หลายตัว เช่น ธุรกิจยางมะตอย ราคาหุ้น out perform มากๆ ดังนั้นการดูรูปร่างกราฟจะช่วยให้การตัดสินใจดีขึ้น

คนที่เล่นหุ้นด้วยเทคนิคมักจะถูกทดสอบด้วยเหตุการณ์วิกฤติเสมอ ปีนี้จะเป็นปีตัดสินอีกครั้งหนึ่ง และการเล่นแนวเทคนิคใช้ไม่ได้ 100%

“ผมกลัวแรงขายมากที่สุด ถ้ามีก็จะหนี”

วัชระ กล่าวเพิ่มเติมว่า เขาไม่ใช่เซียนหุ้น ทุกคนที่สำเร็จล้วนมีบาดแผล กว่าจะสำเร็จได้ต้องบู๊ล้างผลาญ ไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูก แต่ขอให้เลือกในทางที่ถนัด หากต้องการสำเร็จต้องมีวินัยและอ่านหนังสือ

“หุ้น คืออาชีพของผม การลงทุนทำให้ต้องเฝ้าทุกวัน”

เรียนรู้โลกของการเงินและการลงทุน ต่อยอดสู่ความมั่งคั่งด้วยตัวคุณเองได้ที่ห้องสมุดมารวย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ห้องสมุดมีหนังสือดีๆ ด้านการเงินการลงทุนมากมาย ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ มากกว่า 20,000 เล่ม รอให้ทุกท่านได้มาเรียนรู้

ห้องสมุดมารวย ณ อาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ แห่งใหม่ บนถนนรัชดาภิเษก ติดกับสถานฑูตจีน เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 - 21.00 น. เดินทางสะดวกโดยรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) ลงสถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ออกประตู 3 ติดตามความรู้ที่น่าสนใจ กิจกรรม และหนังสือใหม่ของห้องสมุดคลิก www.maruey.com

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
เรื่องโดย : นภาพร ไชยขันแก้ว
ที่มา : วารสาร Money&Wealth ฉบับเดือนมีนาคม 2559