ดร.นิเวศน์ อธิบายว่า ในตอนขายหุ้น VI ก็เหมือนกับตอนซื้อ คือไม่ได้อิงกับภาวะเศรษฐกิจหรือตลาดหุ้น และนักลงทุน VI มักจะถือหุ้นเป็นเวลาค่อนข้างยาว (เช่น 3-4 ปี) ซึ่งแต่ละคนก็อาจแตกต่างกัน เวลาขายหุ้นของ VI จึงไม่ได้กำหนดชัดๆ ว่าเมื่อใด แต่กำหนดหลักการกว้างๆ ว่าจะขายหุ้น VI ในกรณีดังต่อไปนี้
- พบว่ากิจการของหุ้นที่ซื้อมานั้น เราวิเคราะห์ผิดพลาดเอง เนื่องจากมีข้อมูลใหม่ที่เราไม่ทราบ และไม่ได้นำมาวิเคราะห์
- พื้นฐานของกิจการเปลี่ยนไป เคยเป็นหุ้น VI ที่ดี ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว แต่ในข้อนี้ ดร.นิเวศน์ บอกว่าถ้าของดีจริง พื้่นฐานไม่ใช่จะเปลี่ยนง่ายๆ
- ราคาหุ้นขึ้นไปเกินมูลค่าพื้นฐานแล้ว หลักสำคัญจะอยู่ที่การประเมินมูลค่าพื้นฐานของกิจการในสถานการณ์ปกติ ยังขายของได้ ยังผลิตได้ ยังทำกำไรอยู่ ราคาที่เคยซื้อไว้ในราคาที่ถูก เมื่อนักลงทุนทั่วไปทราบ ก็จะทำให้ราคาสูงขึ้นเข้ามาหาสภาพปัจจัยพื้นฐาน แต่ต้องระวังด้วยว่ามูลค่าพื้นฐานของบริษัทก็อาจเปลี่ยนแปลงได้ จึงต้องประเมินเทียบกับราคาตลาดเป็นระยะๆ
- มีหุ้นตัวอื่นที่น่าสนใจและมี Margin of Safety สูงกว่ามาก และในตอนนั้นเราไม่มีเงินสดเหลือ จึงต้องขายหุ้นตัวเดิม และไปซื้อหุ้น VI ตัวใหม่
- ภาวะเศรษฐกินจ การเมือง และสภาพแวดล้อมอื่นๆ เปลี่ยนไปมากจนทำลายพื้นฐานของกิจการ เช่น การเปลี่ยนแปลงทางวิกฤตเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี หรือโครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้สินค้าและบริการบางชนิดไม่ได้รับความนิยมอีกต่อไป เป็นต้น