Thursday, October 9, 2014

หมู่เฮาชาว VI



       ประมาณ 10 ปีนับตั้งแต่แนวความคิดของการลงทุนแบบ Value Investment เริ่มขึ้นในตลาดหุ้นไทย ผมคิดว่าถึงวันนี้เรามีคนที่ถือว่าตนเองเป็น Value Investor หลายพันคน บางทีอาจจะถึงหมื่นคน เท่าที่สังเกตและดูข้อมูลประกอบบ้าง ผมคิดว่า Profile หรือคำบรรยายคุณสมบัติของพวกเขาน่าจะประมาณสิ่งที่ผมจะพูดต่อไปนี้

     Value Investor ส่วนใหญ่น่าจะมีอายุระหว่าง 30 – 45 ปี มากที่สุด เหตุผลน่าจะเป็นว่า นี่คือช่วงอายุที่พวกเขาเริ่มมีเงินเหลือเก็บและเริ่มมองหาการลงทุนที่จะให้ผลตอบแทนที่เหมาะสม นอกจากนั้น นี่คือช่วงชีวิตที่คนมักจะเริ่มเป็นหลักเป็นฐานและมีเวลามากขึ้นในการศึกษาเรื่องของการลงทุน อย่างไรก็ตาม ที่เป็นคนอายุน้อย ยังเรียนไม่จบมหาวิทยาลัยก็มีให้เห็นเช่นกัน ซึ่งก็เป็นเรื่องแปลกว่าทำไมเขาจึงสนใจลงทุนทั้ง ๆ ที่ยังไม่มีความจำเป็นเช่นนั้น

         นักลงทุนเน้นคุณค่าที่ผมเห็นนั้นเกือบจะ 9 ใน 10 คน เป็นผู้ชาย ในขณะที่คนลงทุนซื้อขายหุ้นในตลาดนั้น สัดส่วนของผู้หญิงน่าจะสูงกว่านี้ เหตุผลที่ผู้หญิงยังไม่เข้ามานั้น ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นว่าผู้หญิงยังมองว่าการจัดการทางด้านการเงินนั้น เป็นหน้าที่ของผู้ชาย และการลงทุนในตลาดหุ้นแบบ Value Investment ยังเป็นเรื่องที่ซับซ้อนเกินไปที่จะเข้าใจ

          นักลงทุนที่เรียกตนเองว่าเป็น Value Investor นั้น ส่วนใหญ่ ซึ่งผมคิดว่าน่าจะไม่ต่ำกว่า 90% ขึ้นไปเรียนจบอย่างน้อยปริญญาตรี สาขาวิชาที่เรียนมานั้น มักจะมาทางสายวิทยาศาสตร์ โดยกลุ่มที่มีมากที่สุดนั้น น่าจะเป็นวิศวกรรม และอีกจำนวนไม่น้อยเป็นแพทย์ จำนวนคนที่เรียนสูงกว่าปริญญาตรีก็มีสัดส่วนค่อนข้างสูง คงไม่เป็นการกล่าวที่เกินเลยถ้าจะพูดว่านักลงทุนแบบ Value Investor นั้น เป็นกลุ่มของคนที่ค่อนข้างจะมี IQ และความรู้สูงและคงแก่เรียน

           Value Investor ที่ผมพบนั้น จำนวนมากมีฐานะทางการเงินค่อนข้างดีและมีพอร์ตของหุ้นค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับทรัพย์สินอื่น ส่วนหนึ่งที่ทำให้คนเหล่านี้มีความมั่งคั่งมากนั้น นอกจากฐานะทางครอบครัวที่อาจจะร่ำรวยอยู่แล้ว มาจากการที่พวกเขาประสบความสำเร็จจากการลงทุนแบบเน้นคุณค่าในหลายปีที่ผ่านมา ก็คงจะไม่เกินเลยอีกเช่นกันถ้าจะบอกว่า Value Investor โดยรวมแล้วเป็นกลุ่มของคนที่ค่อนข้างจะรวย ไม่โดยตัวเองก็มาจากฐานะทางบ้าน และนี่ก็ทำให้เราพบเห็น Value Investor หลายคนยึดอาชีพเป็นนักลงทุนทั้ง ๆ ที่อายุยังห่างจากเกณฑ์เกษียณมาก

            พูดถึงความคิดทางการเมืองและปรัชญาทางเศรษฐกิจ Value Investor ส่วนใหญ่น่าจะเป็นพวกเสรีประชาธิปไตย เป็นพวก Capitalist หรือเป็นสังคมทุนนิยม แต่ไม่ใช่ทุนนิยมผูกขาด พวกเขามักจะอยากให้ตลาดเป็นตัวกำหนดการจัดสรรทรัพยากรมากกว่าการที่รัฐจะเข้ามาแทรกแซงในเรื่องของการค้าขาย

               ความฝันของ Value Investor นั้น ที่ผมเห็นชัดเจนมากที่สุดก็คือ พวกเขาอยากจะมี “อิสรภาพทางการเงิน” นั่นก็คือ เขาอยากมีเงินมากพอที่จะให้เงินทำงานเลี้ยงชีวิตเขาได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งการทำงานหารายได้ประจำจากน้ำพักน้ำแรง หลาย ๆ คนฝันว่าเขาจะสามารถ “เกษียณ” ตัวเองจากงานประจำได้ก่อนอายุ 40-50 ปี หลังจากนั้น เขาคิดว่าเขาจะได้ทำงานในสิ่งที่เขาชอบ ซึ่งอย่างหนึ่งที่จะต้องทำแน่นอนก็คือ การลงทุนซื้อขายหุ้น บางคนฝันต่อว่า ถ้าเขารวยมาก ๆ จากการลงทุน เขาก็จะบริจาคเงินเพื่อการกุศลคิดเป็นสัดส่วนที่สูง ความฝันทั้งหมดนี้ผมก็ไม่แน่ใจว่า ส่วนหนึ่งน่าจะได้รับอิทธิพลจาก Value Investor ที่ประสบความสำเร็จอย่าง วอเร็น บัฟเฟตต์ หรือเปล่า

             Value Investor นับถือและยกย่อง วอเร็น บัฟเฟตต์ มากที่สุด แต่แนวทางการลงทุนนั้น ส่วนใหญ่จะเน้นการลงทุนในแนวของ เกรแฮม นั่นก็คือ นักลงทุนจะเน้นการซื้อหุ้นราคาถูกและขายหุ้นเมื่อราคาปรับตัวขึ้นหรือราคาแพงแล้วในสไตล์ของ เกรแฮม คุณภาพของกิจการที่เป็นจุดเน้นของ วอเร็น บัฟเฟตต์ นั้น นักลงทุนจะให้ความสนใจน้อยกว่าเรื่องของราคา ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะเขายังอาจจะไม่เข้าใจในคุณสมบัติที่แท้จริงของธุรกิจดีพอ อีกส่วนหนึ่งอาจจะมองว่าการเทรดหุ้นบ้างน่าจะช่วยให้สามารถเพิ่มผลตอบแทนการลงทุนได้มากกว่าการถือหุ้นตัวใดตัวหนึ่งยาวเกินไป

              สุดท้ายก็คือ เรื่องของสไตล์ในการดำรงชีวิตของ Value Investor นักลงทุนแบบเน้นคุณค่าส่วนใหญ่จะใช้ชีวิตแบบ “พอเพียง” คือใช้ชีวิตตามควรแก่อัตภาพ จำนวนมากใช้ชีวิตต่ำกว่ามาตรฐานความร่ำรวยของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นกรณีใด Value Investor มักจะใช้จ่ายเงินอย่างค่อนข้างมีเหตุผลไม่ฟุ่มเฟือย จะจ่ายเงินต่อเมื่อได้คุณค่าที่คุ้มค่า

              กล่าวโดยสรุปก็คือคุณสมบัติแบบ Value Investor โดยทั่วไปนั้น เป็นกลุ่มคนที่น่านับถือ เป็นคนที่มีเหตุผลทั้งในด้านของการเงินและการใช้ชีวิต และถ้าคุณเป็นคนที่กำลังมองหาคนที่จะมาเป็นคู่ครอง และบังเอิญคน ๆ นั้นเป็น Value Investor ผมก็คิดว่าคุณน่าจะเป็นคนโชคดีที่จะได้หุ้นส่วนชีวิตที่เป็นที่พึ่งที่ดีได้

CR. ดร.นิเวศน์  เหม